เริ่มจาก การขอใบขับขี่ระหว่างประเทศ
ถ้าเรามีใบขับขี่ของประเทศไทยอยู่แล้ว การขอใบขับขี่ระหว่างประเทศนั้นจะไม่เป็นเรื่องที่ยากเลย เพียงแค่เตรียมเอกสาร และนำไปยื่นที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 หรือ ส่วนใครอยู่ต่างจังหวัดก็สามารถยื่นได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดของทุกจังหวัด
เอกสารที่ต้องนำไปยื่นเพื่อขอใบขับขี่ระหว่างประเทศ
- สำเนา Passport พร้อมเล่มจริง
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมฉบับจริง
- สำเนาใบขับขี่ พร้อมฉบับจริง
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ–สกุล, ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า (ถ้ามี)
- ค่าธรรมเนียม 505 บาท
สอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมขนส่งทางบก DLT Call Center 1584
กรณีเอารถของตัวเองไปขับเที่ยว
สำหรับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับไทยนั้น เราสามารถนำรถของเราเองไปขับเที่ยวได้ โดยมีข้อควรระวังดังนี้
- รถที่นำข้ามไปขับไม่ควรติดไฟแนนซ์ เพราะหลายที่จะไม่ยอมให้เรานำออกนอกประเทศ เพราะกลัวว่าลูกค้าอาจจะขับหนีออกนอกประเทศไป ทั้งๆที่ยังผ่อนไม่หมด
- ฟิล์มติดรถควรเป็นฟิล์มใส เพราะถ้าติดแบบทึบไปอาจไม่ผ่านด่านตรวจ และอาจโดนขอให้ลอกฟิล์มออกได้
ถ้าขับรถตัวเองไปลาว ต้องมีพาสปอร์ตรถด้วยนะ
นอกจากมีใบขับขี่ระหว่างประเทศแล้วรถของเราต้องมีพาสปอร์ตรถด้วยไม่งั้นจะไม่สามารถขับรถของเราข้ามไปลาวได้
วิธีขอพาสปอร์ตรถนั้นไม่ยากเลย เพียงแค่ไปที่กรมขนส่ง ขอทำพาสปอร์ตเล่มสีม่วง ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 55 บาท
พอเราขับไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาว ก็ทำการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถของเราเป็นภาษาอังกฤษ ค่าธรรมเนียมแผ่นละ 100 บาท จำนวน 2 แผ่น และแปะสติกเกอร์รูปตัว T
ทั้งหมดนี้เราสามารถยื่นขอได้ที่สำนักงานที่รถจดทะเบียน
ขับรถตัวเองไปกัมพูชา
ก็สามารถขับไปได้! โดยเตรียมแสดงเอกสารที่ด่านตรวจของเขมรคือทะเบียนรถเล่มฉบับจริงพร้อมถ่ายเอกสารหรือถ้าเจ้าของรถไม่ได้ไปเองก็ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถยนต์และผู้รับมอบอำนาจ
ขับรถตัวเองไปมาเลเซีย
กรณีนี้ เราก็ต้องไปยื่นเรื่องที่กรมการขนส่งก่อน โดยยื่นเรื่องขอหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งใช้เวลาขอประมาณ 1 – 2 วัน เมื่อยื่นเสร็จเรียบร้อย เราก็จะได้รับ Vehicle Registration Certification หรือ หนังสือรับรองการจดทะเบียนรถ ก็พร้อมขับไปตลุย
ไปพม่าก็ขับรถตัวเองไปได้
แนะนำให้ข้ามด่านเจดีย์สามองค์โดยเอกสารที่ต้องเตรียมคือ 1. สำเนาเล่มทะเบียนรถคันที่นำออก หรือ ใบเสียภาษี (ป้ายวงกลม) หรือ เอกสารประกันภัย อย่างใดอย่างหนึ่ง 2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคนที่ข้ามไปเที่ยว
พอไปถึงด่าน ก็แค่กรอกเอกสาร ตม.2 ตม.3 และจ่ายค่าธรรมเนียมคันละ 50 บาท เป็นอันเสร็จสิ้น
ข้อระวังเรื่องพาสปอร์ต
พาสปอร์ตของนักเดินทางทุกคนควรจะมีอายุมากกว่า 6 เดือน
ส่วนใครที่ไม่อยากเอารถตัวเองไป ถ้ามีใบขับขี่ระหว่างประเทศ ก็สามารถเช่ารถขับเที่ยวได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาทำวีซ่าก่อนไป
เอเชียตะวันออก : ฮ่องกง (30 วัน), ญี่ปุ่น (15 วัน), เกาหลีใต้ (90 วัน), มาเก๊า (30 วัน), ไต้หวัน (30 วัน), มองโกเลีย (30 วัน)
ยุโรป : รัสเซีย (30 วัน), ตุรกี (30 วัน), จอร์เจีย (365 วัน)
อเมริกาใต้ : บราซิล (90 วัน), อาร์เจนตินา (90 วัน), ชิลี (90 วัน), เอกวาดอร์ (90 วัน), ปานามา (180 วัน), เปรู (90 วัน)
AEC : สิงคโปร์ (30 วัน), เวียตนาม (30 วัน), มาเลเซีย (30 วัน), อินโดนีเซีย (30 วัน), ฟิลิปปินส์ (30 วัน) 21 วัน, บรูไน (14 วัน), ลาว (30 วัน), กัมพูชา (14 วัน), พม่า (14 วัน)
ใครที่อยากไปเที่ยวช่วงหยุดยาวนี้แต่ยังไม่มีแผนหรือยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนดี ก็ลองเลือกกันดูว่าประเทศไหนน่าไปขับรถไปเที่ยวเองบ้าง นอกจากวางแผนเรื่องเส้นทางและเรื่องเอกสารใบขับขี่ระหว่างประเทศแล้ว ก็อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยระหว่างการเดินทางด้วย เช่น การทำประกันการเดินทาง จ่ายแค่หลักร้อยแต่ให้คุ้มครองผู้เดินทางถึงหลักล้าน